วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม

ชื่อ-นามสกุล - รหัสนักศึกษา - เบอร์โทรติดต่อ

  1. นายอนุชา พิมพ์นนท์4921207007@0868970977
  2. นายภุมินทร์แก้วโมราเรืองฤทธิ์4921207034@08412789408
  3. นายสรรเสริญ จิตตะโสภี 4921207048 @0863466809
  4. นายวีรพัฒน์ ใจดี 4921207169 @0866639732






นายอนุชา พิมพ์นนท์ (ป๊อด)







นายภุมินทร์ แก้วโมราเรืองฤทธิ์ (แบงค์)





นายสรรเสริญ จิตตะโสภี(สัน)







นายวีรพัฒน์ ใจดี (โจ๋)

วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ร้านขายกระเป๋าส่ง(Modern Bag)

บทที่ 1
(ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา)


1.1ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

ในอดีตหรือปัจจุบันนั้นการค้าขายมีบทบาทในการดำเนินชีวิตทั้งตัวบุคคลและของแต่ละประเทศ ถือได้ว่าการขายค้านั้นเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้ประเทศหรือบุคลากรของประเทศมีความเจริญก้าวหน้าและสามารถแข่งขัน ต่อลองทางธุรกิจกับประเทศอื่น ๆ ได้ จึงนับได้ว่าการค้าขายจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศพัฒนา ส่วนการค้าขายกก็มีหลายประเภท หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับธุรกิจที่ดำเนินงาน ส่วนของระบบนี้จะพูดเกี่ยวกับธุรกิจค้าส่ง (Wholesale) โดยจะมีพ่อค้าคนกลางไปรับสินค้ามาแล้วจำหน่ายต่อพ่อค้ารายย่อ โดยมีเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาความเป็นมา ของการดำเนิน ธุรกิจค้าส่ง ร้าน Modern bag การที่จะเข้าก้าวสู่ กิจการกระเป๋า จากทางด้านธุรกิจ แต่ก่อนเคยทำงานเกี่ยวกับการส่งผ้า รับผ้า ไปขาย และเสนอ งาน ตามร้านกระเป๋า ต่างๆ จนวันหนึ่งรวบรวมเงิน ได้ ก้อนหนึ่ง จึงหันมาทำงานทางด้านธุรกิจค้าส่ง เกี่ยวกับการที่มีความรู้ด้านธุรกิจค้าส่งเกี่ยวกับกระเป๋า และรู้แนวทางวิธีดำเนินงาน พออยู่บ้าง จึงหันมาทำธุรกิจเอง และมีที่ทำเลทอง ยานสำเพ็ง ซึ่งยานนั้นเป็นการสินค้าเกี่ยวกับกระเป๋าเป็นส่วนใหญ่ จึงเป็นโอกาสที่ดีสิ่งแรกก็คือมีร้านเล็กๆ อยู่หนึ่งล็อก ซึ่งดำเนินธุรกิจ เมื่อ ปีพ.ศ. 2546 ผู้ประกอบกิจการ คือ นายนวกร แผ้วประยูร และ นางสาวอุดมทรัพย์ พิมพ์นนท์ และได้ตั้งชื่อร้านว่า Modern bag สถานที่ตั้ง อยู่ที่ 369 – 4/5 อาคารสำเพ็งกิ๊ฟช็อฟ ถ.วานิช1 แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 10100. ประเภทสินค้าก็คือ กระเป๋า เป็นแบบหนัง และผ้า ส่วนมากเน้นกระเป๋าประเภทแฟชั่นมากกว่า เพราะยุคนี้เป็นยุคที่รับวัฒนธรรมชาติตะวันตกมาใช้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งกระเป๋าทางร้าน จะเป็นผู้รับมาจากประเทศจีน และประเทศไทย บางเล็กน้อย แต่พอนานไปก็ได้เริ่มรู้จักหาแนวทางที่จะขาดทุนน้อย โดยการไปติดต่อกับพ่อค้าคนกลางอีกที่หนึ่ง ซึ่งพ่อค้าคนกลางจะนำแบบกระเป๋ามาเสนอต่อทางร้าน และให้ทางร้านสั่ง ซึ่งจะได้เปอร์เซ็นต์เท่าไร ทางร้านก็ขอปิดเป็นความรับ ซึ่งทางร้านไปสั่งกระเป๋าด้วยตนเองโดยนักเครื่องบินไปสั่งถึงประเทศจีน เป็นระยะเวลาเดือนละครั้ง อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจบ้านเราด้วยถ้ากิจการดีก็อาจจะบินไป เดือนละสองครั้ง ก็ขึ้นอยู่กับจะขายได้มากน้อยเพียงใด ส่วนในด้านปัญหา เรายังมีปัญหา ในการที่จะเซ็คสินค้าแต่ละครั้ง ว่าตัวไหนหมด ตัวไหนที่จะต้องเพิ่มเติม แก่ลูกค้า บางที่ก็ทำให้เสียเวลาในส่วนนี้ด้วย ส่วนที่เกินขึ้นตามมาก็คือ สต๊อกไม่มีที่จะสามารถรับสินค้าได้ คือว่าไม่มีที่จะเก็บสินค้า เพราะสินค้าเยอะกว่าที่กำหนด แหละอีกส่วนหนึ่งก็คือการทำงานไม่เป็นไปตามที่เราว่างไว้ และเสียในการรับ order ลูกค้าด้วยเช่นกัน ไหนจะหาทุนมาสมทบเพิ่มขึ้นอีก ทั้งๆที่สินค้าก็ยังเต็มสต๊อกอยู่อีกมากมาย เราจึงมีการหาวิธีการจะจัดระบบขึ้นมาใหม่เพื่อนำมาพัฒนาระบบธุรกิจค้าส่ง (ร้าน Modern bag) โดยหาระบบซอฟต์แวร์ขึ้นมาใช้ ในการลดปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น สามารถช่วยการควบคุมสินค้ามีระบบและง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น ยังสามารถมีเวลาในการจัดสินค้า และควบคุมสต๊อกได้มากขึ้นไม่เกิดความยุ่งยากในการไปเช็คสต๊อคแต่ละครั้ง และสามารถรู้ผลลัพธ์ต่างได้ทันที และช่วยลดต้นทุนทางด้านแรงงานหรือบุคลากร ดังนั้นจึงเหมาะสมแก่การที่จะนำระบบซอฟต์แวร์มาใช้ควบคุมกับการทำธุรกิจดำเนินค้าส่งได้เป็นอย่างดี
จากข้อมูลเหล่านี้พวกเราจึงจัดทำโครงการระบบการขายกระเป๋าค้าส่งขึ้น เพื่อเป็นแนวทางที่จะทำให้ธุรกิจการค้าส่งได้มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้น และมีประโยชน์กับผู้ค้าส่งดังนี้
-เพิ่มประสิทธภาพในการจัดเก็บสินค้า
-เพิ่มประสิทธภาพในการค้นหาดูข้อมูลสินค้า
-ลดความผิดพลาดในการเช็คสต๊อก ตรวจสอบสินค้าต่าง ๆ
-ลดความเสียหายที่อาจเกิดจากความผิดพลาดของบุคลากร เช่น ด้านการคำนวณเงินต่าง ๆ

1.2วัตถุประสงค์

1.2.1 เพื่อพัฒนาระบบธุรกิจการค้าส่งกระเป๋า
1.2.2 เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูลในการขายส่งกระเป๋า
1.2.3เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ระบบสามารถตรวจสอบสินค้าได้
1.2.4เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การให้บริการลูกค้าในการค้นหาข้อมูลของสินค้าและประเภทของสินค้า
1.2.5เพื่อทราบถึง รายรับ-รายจ่าย จำนวนของสินค้าที่ขายได้
1.2.6เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการขายส่งกระเป๋า

1.3 ขอบเขตของโครงงาน

1.3.1 สินค้า
1.3.1.1 จัดเก็บข้อมูลสินค้า
1.3.1.2 ตรวจสอบข้อมูลสินค้า
1.3.1.3 เพิ่มถอนข้อมูลสินค้า
1.3.2 การชำระเงิน
1.3.2.1 คำนวณราคาสินค้า
1.3.2.2 คำนวณเงินทอน
1.3.2.3 สรุปยอดเงิน


1.3.3 การรายงานผล
1.3.3.1 รายงานข้อมูลการขายสินค้า
1.3.3.2 รายงานสรุปประจำวัน

1.4 ขั้นตอนการดำเนินงาน
1.4.1 ศึกษาปัญหาของระบบ
1.4.2 วิเคราะห์ระบบ
1.4.3 ออกแบบระบบ
1.4.4 พัฒนาระบบ
1.4.5 ทดสอบแก้ไขระบบ
1.4.6 บำรุงรักษาระบบ





1.5 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.5.1 มีระบบการขายส่งกระเป๋าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
1.5.2 สามารถเปรียบเทียบราคาคุณภาพของสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อได้
1.5.3 สามารถช่วยคำนวณราคาของสินค้า เงินทอน ให้ถูกต้องแม่นยำได้
1.5.4 ลดความซับซ้อนในการจัดเก็บและนำสินค้าเข้า-ออก







บทที่ 2
(ศึกษาความเป็นไปได้ )

2.1 ศึกษาปัญหาของระบบ


  1. การจัดทำใบสั่งซื้อสินค้าเนื่องจากถ้ามีการสั่งซื้อสินค้าแต่ละอย่าง
    พนักงานต้องเป็นคนจดบันทึกรายการสั่งซื้อสินค้าของลูกค้าลงใน

    แบบฟอร์มการสั่งซื้อ ถ้าลูกค้ามาซื้อสินค้าพร้อมกันมากๆ

    อาจทำให้เกิดความล่าช้าในการให้บริการ

  2. เนื่องจากไม่ได้จัดเก็บข้อมูลลูกค้า เมื่อลูกค้าคนเดิมกลับมาซื้อสินค้า
    อีกครั้งลูกค้าต้องกรอกข้อมูลต่างๆ ใหม่อีกครั้งทำให้เสียเวลา


  3. การจัดเก็บข้อมูลสินค้า เนื่องจากยังมีการจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบ
    ของเอกสารอยู่ เมื่อจำนวนข้อมูลสินค้ามีจำนวนมากขึ้น อาจทำให้

    สิ้นเปลื้องพื้นที่ในการจัดเก็บเอกสารเหล่านั้นและยากต่อการค้นหา


  4. มีปัญหาในการดูจำนวนสินค้าในสต๊อกว่าคงเหลือเท่าไร จึงทำให้ไม่สามารถบอกจำนวนสินค้าที่คงเหลือให้ลูกค้าตัดสินใจได้



2.2 เสนอแนวทางแก้ปัญหา

แนวทางที่ 1
- จัดหาซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์เอกสาร(Printer)

โปรแกรมสำเร็จรูปการขายสำหรับบันทึกข้อมูล

- ทำบัญชีสินค้าในสต๊อกเพื่อทราบถึงจำนวนในสต๊อก



แนวทางที่ 2
- จัดหาซื้ออุปรกรณ์ระบบ POS (Point Of Sales) มาใช้

- ทำบัญชีสินค้าในสต๊อกเพื่อทราบถึงจำนวนในสต๊อก




แนวทางที่ 3
- จัดหาซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์เอกสาร(Printer)

- สร้างแบบฟอร์มสำหรับเก็บข้อมูลลูกค้าและข้อมูลสินค้ารวมถึงจำนวนสินค้า

ในสต๊อก โดยใช้โปรแกรม Access ที่พัฒนาขึ้นมาเอง



2.3 ประเมินแนวทางที่เสนอ
2.3.1 ความเหมาะสมทางด้านเทคโนโลยี (Technically Feasible)


แนวทางที่ 1
ผ่านเรื่องความเหมาะสมทางด้านเทคโนโลยี เพราะสามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์มาใช้ในการบันทึกข้อมูลสินค้า ข้อมูลลูกค้า และข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า ทำให้เกิดความสะดวกในการให้บริการ


แนวทางที่ 2
ผ่านเรื่องความเหมาะสมทางด้านเทคโนโลยี เพราะสามารถจัดหาอุปกรณ์ระบบ POS (Point Of Sales) มาใช้ในการบันทึกข้อมูลสินค้าและข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า ทำให้เกิดความสะดวกในการให้บริการแต่ไม่สามารถบันทึกข้อมูลของลูกค้าได้


แนวทางที่ 3
ผ่านเรื่องความเหมาะสมทางด้านเทคโนโลยี เพราะสามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์มาใช้ในการบันทึกข้อมูลสินค้า ข้อมูลลูกค้า และข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า ทำให้เกิดความสะดวกในการให้บริการ นอกจากนี้ยังสามารถเรียกดูข้อมูลการสั่งซื้อสินค้าย้อนหลังได้ รวมถึงปรับปรุงข้อมูลสินค้าและข้อมูลลูกค้าได้ง่ายเพราะที่โปรแกรม Access ที่พัฒนาขึ้นมาเอง


2.3.2 ความเหมาะสมทางด้านการปฏิบัติ (Operation Feasibility)


แนวทางที่ 1
ผ่านเรื่องความเหมาะสมทางด้านการปฏิบัติการ เนื่องจากสามารถนำคอมพิวเตอร์ ที่มีอยู่มาประยุกต์ใช้งานได้โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปบันทึกข้อมูล


แนวทางที่ 2
ผ่านเรื่องความเหมาะสมทางด้านการปฏิบัติการ เนื่องจากสามารถนำอุปกรณ์ระบบ POS (Point Of Sales) ที่มีอยู่มาประยุกต์ใช้งานได้โดยใช้ระบบของ POS


แนวทางที่ 3
มีการพัฒนาระบบฐานข้อมูลลูกค้าและฐานข้อมูลสินค้ารวมถึงจำนวนสินค้าใน

สต๊อกเนื่องจากโปรแกรม Access ที่พัฒนาขึ้นมาเอง

เพื่อใช้บันทึกข้อมูลลูกค้าข้อมูลสินค้ารวมถึงจำนวนสินค้าในสต๊อก จึงเป็นแนวทางที่สะดวกมากๆ


2.3.3 ความเหมาะสมทางด้านการลงทุน (Economic Feasibility)


2.3.3.1 ประมาณต้นทุนกำไร



2.3.3.2 การประมวลค่าใช้จ่ายเนื้อหาสำหรับแนวทางต่างๆ



2.3.3.3 วิเคราะห์มุลค่าปัจจุบัน

1.) วิเคราะห์มูลค่าปัจจุบันของแนวทางที่ 1



2.) วิเคราะห์มูลค่าปัจจุบันของแนวทางที่ 2



3.) วิเคราะห์มูลค่าปัจจุบันของแนวทางที่ 3



2.3.3.4 วิเคราะห์ระยะเวลาในการคืนทุน


แนวทางที่ 1 ระยะเวลาการคืนทุน เดือนที่ 4


แนวทางที่ 2 ระยะเวลาการคืนทุน เดือนที่ 5


แนวทางที่ 3 ระยะเวลาการคืนทุน เดือนที่ 4


2.4 เลือกแนวทางที่เหมาะสมที่สุด


จากการพิจารณาความเหมาะสมทางด้านต่างๆ แล้วปรากฏว่าได้ผลดังนี้


แนวทางที่ 3 ผ่านเรื่องความเหมาะสมทางด้านเทคโนโลยี และมีความเหมาะสมทางด้านการปฏิบัติ และการผ่านเรื่องความเหมาะสมทางด้านการลง จะเห็นได้ว่าแนวทางที่ 3 นี้ผ่านการประเมินผลในทุกๆ ด้าน ทั้งยังดำเนินงานง่ายและสะดวก ดดยใช้ระยะเวลาในการคืนทุน 4 เดือน ดังนั้นจึงเลือกพัฒนาระบบโดยใช้แนวทางที่ 3 เป็นแนวทางในการพัฒนา